
ระบบโลจิสติกส์ กับ supply chain เป็นสองคำที่ได้ยินกันมานานมากแล้ว แต่เราก็ยังไม่ค่อยเข้าใจอยู่ดีว่ามันคืออะไร ระบบโลจิสติกส์ นี่มันก็คือ supply chain หรือโซ่อุปทานใช่รึเปล่า จริงๆแล้ว โลจิสติกส์เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นของโซ่อุปทาน โดยที่โลจิสติกส์นั้นจะครอบคลุมถึงการวางแผนการใช้ทรัพยากรขององค์กร การควบคุมให้ใช้ได้อย่างมีประโยชน์สูงสุด และการลำเลียงสินค้าและบริการจากจุดเริ่มต้นไปจนถึงจุดสิ้นสุดที่สินค้าและบริการนั้นๆจะถูกใช้โดยผู้บริโภค ในขณะที่โซ่อุปทานนั้นจะครอบคลุมในเรื่องของโลจิสติกส์ไปจนถึงการสั่งซื้อสินค้าของผู้บริโภค กระบวนการผลิต รวมไปถึงกระบวนการอื่นๆที่เกิดขึ้นตั้งแต่ซัพพลายเออร์ผลิตสินค้าจนถึงการที่สินค้าถูกวางจำหน่ายตามห้างร้านต่างๆ เพราะฉะนั้นสองคำนี้มีความหมายต่างกันอย่างมาก
สำหรับระบบโลจิสติกส์จะมีกระบวนการใหญ่ๆอยู่สองแบบ ก็คือ กระบวนการไหลเวียนของวัตถุดิบและกระบวนการไหลเวียนของข้อมูล ซึ่งองค์กรจะประสบความสำเร็จอย่างมากในการลดต้นทุนการผลิตถ้าสามารถทำให้สองกระบวนการนนี้ทำงานไปด้วยกันได้ สำหรับกระบวนการผลิตนั้นจะครอบคลุมตั้งแต่การลำเลียงหรือกักเก็บวัตถุดิบในรูปแบบต่างๆไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่ที่เป็นเพียงวัตถุดิบธรรมดายังไม่เป็นรูปเป็นร่าง วัตถุดิบที่ได้รับการแปรสภาพแล้ว และวัตถุดิบที่แปรสภาพทุกอย่างจนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ วัตถุดิบที่ยังไม่ได้รับการแปรสภาพก็ไม่มีคุณภาพหรือมีความสำคัญเท่ากับวัตถุดิบที่ได้รับการแปรสภาพเป็นสินค้าส่งถึงมือผู้บริโภค คุณค่าของโลจิสติกส์นั้นอยู่ที่การเพิ่มคุณภาพของสินค้าโดยการลำเลียงสินค้าไปในเวลาและสถานที่ที่ต้องการ ระบบโลจิสติกส์จึงมีความสำคัญต่อองค์กร
ส่วนกระบวนการไหลเวียนของข้อมูลก็เป็นสิ่งที่องค์กรไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ การที่จะควบคุมและวางแผนการซื้อหรือกักตุนวัตถุดิบนั้นจะเป็นไปได้อย่างดีถ้าเรามีข้อมูลจากผู้บริโภค ฝ่ายจัดซื้อและซัพพลายเออร์ กระบวนการไหลเวียนของข้อมูลมีส่วนทำให้กระบวนการผลิตเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ปัจจุบันก็มีหลายระบบควบคุมสินค้าไม่ว่าจะเป็น ERP หรือ MRP และอื่นๆอีกมากมาย นอกจากกระบวนการใหญ่ๆสองกระบวนการนี้แล้ว ก็ยังมีอีกสามสิ่งสำคัญที่ถือว่าเป็นใจกลางของ
ระบบโลจิสติกส์ สามสิ่งนั้นก็คือ การบริหารลูกค้าสัมพันธ์ ระบบการผลิต และ การจัดซื้อ การลำเลียงสินค้าถึงมือผู้บริโภคหรือลูกค้าจัดเป็นขั้นตอนสุดท้ายของทั้งโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน ดังนั้น จุดประสงค์ของการบริหารลูกค้าสัมพันธ์จึงเป็นการที่ผู้บริโภคสามารถหาซื้อสินค้าได้ในท้องตลาดในเวลาที่ต้องการกับการตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกัน สำหรับระบบการผลิตนั้น สิ่งที่โลจิสติกเข้าไปเกี่ยวข้องมากที่สุดก็คือการกำหนดตารางการผลิตโดยจัดแจงวัตถุดิบที่มีอยู่ โลจิสติกส์จะไม่ได้เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตว่าจะผลิตยังไงมากเท่าไหร่ สิ่งที่สำคัญในระบบการผลิตกับโลจิสติกส์ก็คือ จะผลิตสิินค้าเมื่อไหร่ อะไร และที่ไหน ส่วนการจัดซื้อก็จะมีความสำคัญกับโลจิสติกส์ก็คือ การจัดซื้อวัตถุดิบมาให้ได้ทันเวลาที่จะใช้ผลิต บางวัตถุดิบอาจใช้เวลาในการขนส่งมากกว่าวัตถุดิบชนิดอื่นๆ การจัดซื้อจึงมีความสำคัญเพราะถ้าวัตถุดิบมาถึงล่าช้า ทั้งระบบก็จะผลิตช้า จัดส่งช้าไปด้วย
นี่ก็เป็นเพียงแค่ระบบรวมๆของโลจิสติกส์ ทุกระบบล้วนมีความสำคัญต่อองค์กรทั้งนั้น ไม่ใช่แค่ ไฟแนนซ์ ฝ่ายจัดซื้อหรือฝ่ายอื่นๆที่มีความสำคัญกับบริษัทเท่านั้น โลจิสติกส์และ supply chain เป็นอีกสองฝ่ายที่องค์กรควรจะให้ความสำคัญ เพราะสองฝ่ายนี้จะเป็นฝ่ายที่สำคัญที่สุดในการลดต้นทุนการผลิตสินค้า ซึ่งจะส่งผลให้องค์กรต่างๆได้รับผลกำไรมากขึ้นอีกด้วย