วิธีประหยัดพลังงานไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรม
การปรับปรุงค่าเพาเวอร์แฟคเตอร์
วิธีประหยัดพลังงานไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรม คือการลดค่าปรับเพาเวอร์แฟคเตอร์ เนื่องจากการไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมีการปรับอัตราค่าไฟฟ้าใหม่ เมื่อเดือนมิถุนายน 2555 ที่ผ่านมาทำให้ค่าไฟเพิ่มสูงขึ้น
ข้อกำหนดของการไฟฟ้า
ก่อนอื่นเราต้องรู้ข้อกำหนดของการไฟฟ้าก่อนว่าเพื่อที่จะมาปรับใช้กับวิธีประหยัดพลังงานไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรม ค่าปรับเพาเวอร์แฟคเตอร์จะเรียกเก็บเฉพาะผู้ใช้ไฟประเภทที่ 3 กิจการขนาดกลาง, ประเภทที่ 4 กิจการขนาดใหญ่ และประเภทที่ 5 กิจการเฉพาะอย่าง เท่านั้น โดยระบุว่า สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าที่มีเพาเวอร์แฟคเตอร์ (Lagging) ถ้าในรอบเดือนใด ผู้ใช้ไฟฟ้ามีความต้องการพลังไฟฟ้ารีแอคตีฟ เฉลี่ยใน 15 นาทีที่สูงสุดเมื่อคิดเป็นกิโลวาร์ เกินกว่าร้อยละ 61.97 ของความต้องการพลังไฟฟ้าแอคตีฟ เฉลี่ยใน 15 นาที ที่สูงสุดเมื่อคิดเป็นกิโลวัตต์แล้ว …เฉพาะส่วนที่เกิน จะต้องเสียค่าเพาเวอร์แฟคเตอร์ ในอัตรากิโลวาร์ละ 56.07 บาท สำหรับการเรียกเก็บเงินค่าไฟฟ้าในรอบเดือนนั้น เศษของกิโลวาร์ถ้าไม่ถึง 0.5 กิโลวาร์ให้ตัดทิ้งตั้งแต่ 0.5 กิโลวาร์ขึ้นไปคิดเป็น 1 กิโลวาร์
วิธีคิดหาค่าปรัปเพาเวอร์แฟคเตอร์ ของการไฟฟ้า เพื่อส่งเสริม วิธีประหยัดพลังงานไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรม
- หาความต้องการพลังไฟฟ้าแอคทีฟ( Active Power : P ) หน่วยเป็น KW
- หาความต้องการพลังไฟฟ้ารีแอคทีฟ ( Reactive Power : Q ) หน่วยเป็น KVAR
- พลังงานที่ใช้ (KW)ต่อเดือน คูณด้วย 61.97 %(ข้อกำหนดการไฟฟ้าเกินกว่า ร้อยละ 61.97 ของความต้องการพลังงานแอคทีฟ)
- หาความต่างของพลังงานรีแอคทีฟว่าเกิน 61.97 หรือไม่
- ส่วนที่เกิน คูณด้วยค่าปรับ 56.07 บาท จะเป็นค่าปรับของการไฟฟ้าในเดือนนั้น
ตัวอย่างการคิดค่าปรับ (สามารถดูได้จากบิลค่าไฟฟ้าประจำเดือน)
1. ค่าพลังงานแอคทีฟ = 500 KW >จากบิลค่าไฟฟ้าประจำเดือน
2. ค่าพลังงานรีแอคทีฟ = 550 KVAR >จากบิลค่าไฟฟ้าประจำเดือน
3. (500 * 61.97)/100 = 309.85 KVAR >61.97% ของ 500KVAR
4. 550-309.85 = 240.15 KVAR >เกินร้อยละ 61.97 %อยู่ 240.15 หน่วย
5. 240*56.07 = 13456.8 บาท >คิดค่าปรับหน่วยละ 56.07 บาท
**ตัวเลขจากบิลค่าไฟฟ้าประจำเดือน เป็นตัวเลขที่สมมุติขึ้น***
จากการคิดค่าปรัปของการไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 4 เท่า ( ของเดิม 14.02 บาทเริ่มมิถุนายน 2555 ) ทำให้ทางโรงงานอุตสาหกรรมเสียค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เพิ่มขึ้น
การปรับปรุงค่าเพาเวอร์แฟคเตอร์ เพื่อให้สอดคล้องกับ วิธีประหยัดพลังงานไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรม โดยการใช้คาปาฅิเตอร์ (Capacitor)คาปาซิเตอร์จะเป็นอุปกรณ์ที่จ่ายกระแสไฟฟ้ารีแอคทีฟ ถ้ากระแสไฟฟ้า มีทิศทางนำหน้าแรงดัน (Leading) เพื่อทำหน้าที่ชดเชยกระแสไฟฟ้าของวงจรไฟฟ้า โดยทั่วไป กระแสจะล้าหลังแรงดัน (lagging) คาปาซิเตอร์ในระบบไฟฟ้า มีหน่วยเป็น (kVAR)มีหลากหลายขนาดเช่น 5,10,15,30,45 แล้วแต่ผู้ผลิต การออกแบบติดตั้งคาปาฅิเตอร์ (Capacitor)ควรพิจารณาเรื่องการเกิดฮาร์โมนิกส์ด้วย โดยส่วนมากวิศวกรผู้ออกแบบจะออกแบบไว้ประมาณ 30 %ของ load พลังงงานไฟฟ้าสูงสุด แต่โรงงานงานอุตสาหกรรมมักจะมีการปรัยปรุงเครื่องจักรตลอดเวลาทำให้ค่า ค่าเพาเวอร์แฟคเตอร์ ผิดเพี้ยนจากค่าเดิมได้ จึงต้องมีการตรวจเช็คประจำ ค่าเพาเวอร์แฟคเตอร์ ควรจะมีค่ามากกว่า 0.85 ในกรณีโหลดในโรงงานมีค่าเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและมีโหลดขนาดเล็กจำนวนมากควรจะใช้ PF Conntroller ที่สามารถปรับค่าในช่องที่ถี่มากขึ้น
สามารถใช้อุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเช่นใช้มอเตอร์ประสิทธิภาพสูง ,บัสลาสต์อิเลคทรอนิคส์
ขอขอบคุณ Guru ผู้ไม่ประสงค์ออกนามที่ช่วยแบ่งปันความรู้ในเชิงเทคนิคดี ๆ ให้เราได้อ่าน วิธีประหยัดพลังงานไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรม กันค่ะ