Home Job Opportunity การ Coaching เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้อย่างไร?

การ Coaching เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้อย่างไร?

This article is in

0 5328

COACHING สำคัญอย่างไร?

 

วันนี้มีโอกาสได้ไปพบเพื่อนที่เป็น Coach และ NLP Trainer คนหนึ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้เราก็เล่าปัญหาที่เราพบกับทีมงานให้ Coach ฟังว่า เรามีแผนจะ promote พนักงานคนหนึ่ง ที่ผ่านมาก็รับผิดชอบได้ดีระดับหนึ่ง แต่ก็ยังมีบางประเด็นที่ยังไม่ประสบความสำเร็จ เราเองก็พยายามหลายวิธี แต่ก็ยังไม่ได้ผลเท่าที่ควร ด้วยเวลาอันจำกัดที่เรามีแผนจะขยายงานอื่นอีกมากมาย ดังนั้นต้องเร่งเพิ่มประสิทธิภาพพนักงานคนนี้ให้สามารถแบ่งเบาภาระเราให้ได้ในเวลาอันใกล้ และแล้วบทสนทนาของการ coaching ก็เริ่มขึ้น

 

Coach จะถามไปเรื่อย ๆ ถึงวิธีการที่เราทำอยู่โดยละเอียดพอควร เป้าหมายที่ต้องการ การวัดผล กรอบเวลาในการทำงาน อุปสรรค โอกาส  Action plan เป็นอย่างไร ส่วนเราก็มีหน้าที่ตอบสิ่งที่ Coach ถาม ไปเรื่อย ๆ ในแต่ละคำถาม ช่วงแรก ๆ ก็อาจจะรู้สึกอัดอัดบ้าง เพราะบางคำถามเราตอบเขาไม่ได้ชัดเจนทั้งเรื่องเป้าหมาย การวัดผล  และประเด็นไหนที่เราตอบไม่ได้ หรือเป้าหมายไม่ชัด เขาจะวนกลับมาถามคำถามเดิม หากว่าเรายังไม่สามารถหาคำตอบได้ เขาก็จะแนะเล็ก ๆ จนเราสามารถตอบได้ชัดเจน

 

เวลาผ่านไปชั่วโมงกว่า สิ่งที่สรุปได้กลับน่าทึ่งมาก เพื่อน ๆ อาจจะสงสัยว่าแค่การถามตอบกันแค่นี้จะน่าทึ่งอย่างไร ที่บอกว่าน่าทึ่งคือ เราเห็นปัญหาที่ผ่านมาและกำหนดเป้าหมายได้ชัดขึ้น อาจจะยกตัวอย่างสิ่งที่ได้เรียนรู้วันนี้จากการ coaching คือ

 

  • Goal หรือเป้าหมายไม่ชัดเจน
  • Time line หรือ Time frame ไม่ได้กำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจน
  • Measurement วิธีการปัจจุบันวัดผลยาก
  • Training มีการ training ให้ไปแล้วระดับหนึ่ง แต่น่าจะยังไม่พอสำหรับงานที่พนักงานท่านนี้ที่ยังไม่คุ้นเคย หรือไม่มีประสบการณ์
  • Baby step หรือการเริ่มจากจุดเล็กๆ รวมถึงการเริ่มต้นให้ เราเริ่มบางส่วนไปบ้างแล้ว เช่น ทำ template ให้ เพื่อนำไปใช้ต่อข้อนี้ดีอยู่แล้วให้รักษาไว้
  • การเข้าถึงพนักงานยังน้อยเกินไป ต้องจัดเวลาบางส่วนไปมีส่วนร่วมกับพนักงานให้มากขึ้น
  • ประยุกต์วิธีการให้ง่ายและเหมาะสมกับพนักงานให้มากขึ้น

 

shutterstock_302376731

ถ้าจะให้อธิบายง่าย ๆ มันก็เหมือนเรานั่งเล่าปัญหาให้ผู้เชี่ยวชาญฟังว่าปัจจุบันเราจัดการอย่างไร แต่เขาจะมีเทคนิคในการถาม โดยตีกรอบคำถามเพื่อให้เราสามารถสร้างความชัดเจนเหมือนที่อธิบายมาแล้วเบื้องต้น แล้วก็เราอีกนั่นแหละที่จะต้องเป็นคนทำให้สิ่งที่ไม่ชัดเจน ชัดเจนขึ้นด้วยเทคนิคการถามอีกเช่นกัน พอเราเริ่มเห็นปัญหาและเป้าหมายชัดขึ้น เราก็จะเริ่มมองเห็นทางออกมาพร้อม ๆ กันด้วย แทบไม่เชื่อว่า การ coaching จะมีประสิทธิภาพขนาดนี้ แต่เป็นไปแล้วจริง ๆ จากปัญหาข้างต้น สิ่งที่เรากำหนด action plan คือ

 

  • Smart goal คือเป้าหมายนอกจากชัดเจนแล้วต้องมีประสิทธิภาพในการนำไปปฏิบัติ
  • กำหนดกรอบเวลาแล้วเสร็จ
  • วิธีการวัดผลที่เป็นรูปธรรม เช่น รายงาน หรือการจดบันทึกต่าง ๆ
  • เพิ่มการ training คือทำไปด้วยกันเพื่อให้เกิดความเข้าใจมากขึ้น

 

พอเสร็จการ coaching Coach ได้ทำ debrief หรือ สรุปการทำ coaching ที่ทำไป ชี้ให้เห็นจุดต่างๆ และ train เทคนิคของการทำ coaching ให้ด้วย

หลังจากกลับมาเราต้องมาทำ action plan และทดลอง coaching ทีมงานด้วยตัวเอง เพื่อทดสอบวิธีการที่เราได้รับมา อาจจะไม่ได้มืออาชีพแบบ Coach แต่อย่างน้อยที่สุดทำให้เราปรับวิธีการให้ smart ขึ้นนั่นเองค่ะ

 

แล้วจะมาเล่าให้ฟังนะคะว่าพอทำไปแล้วได้ผลอย่างไรกันบ้าง

 

NO COMMENTS

Leave a Reply