รับอุปการะเด็กจากมูลนิธิสงเคราะหเด็กยากจน ซี.ซี.เอฟ. (CCF)
ฉันเป็นเพียงตะเกียงที่ไร้น้ำมัน
เฝ้ารอวันน้ำมันมาหล่อเลี้ยง
น้ำใจ “ท่าน” ทำให้ตะเกียง
มิใช่เพียงมีแสงแต่มีพลัง
บทความหลัง ส.ค.ส. สีชมพูใบน้อย จากเด็กที่ผู้เขียน รับอุปการะเด็กจากมูลนิธิสงเคราะหเด็กยากจน ซี.ซี.เอฟ. (CCF) อาจจะดาธรรมดา ไม่ได้สวยไปกว่า ส.ค.ส. สวย ๆ ที่เราสามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าหรือห้างทั่วไป แต่เราอ่านแล้วรู้สึกได้ถึงความตั้งใจ ใส่ใจที่เด็กตัวน้อย ๆ คนหนึ่งพยายามบรรจงแต่งแต้มสีที่สวยที่สุดที่เขาจะทำได้ เพราะนั่นคงเป็นสิ่งที่เดียวเขาพยายามจะสื่อถึงผู้อุปการะ ลายมือขยุกขยิกตัวใหญ่บ้างเล็กบ้างผสมกันไป อ่านแล้วก็รู้สึกชื่นใจที่น้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ จากเราแปรเปลี่ยนเป็นโอกาสทางการศึกษาให้กับเด็กคนหนึ่งเมื่อราวสี่ปีที่แล้ว โอกาสนี้เปลี่ยนให้เขามีโอกาสได้รับการศึกษาที่ต่อเนื่อง และหากเรามีกำลังที่จะช่วยเหลือจนถึงฝั่ง สังคมเราก็ควรจะมีคนคุณภาพเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน
ช่วงปี 2008 พ่อส่งเอกสารแผ่นหนึ่งให้ผู้เขียน แล้วเล่าให้ฟังว่า พ่อรับอุปการะเด็กจากมูลนิธิสงเคราะหเด็กยากจน ซี.ซี.เอฟ. (CCF) ไว้แล้วสองคน แต่ด้วยพ่อายุเกือบ 80 แล้ว ก็ช่วยเหลือได้ตามกำลัง ด้วยผละกระทบจาก hamburger crisis ทำให้หลายคนคืนการอุปการะด้วยพิษเศรษฐกิจ
พ่อถามว่า “จะช่วยรับไว้สักคนได้มั้ย” บอกตามตรงว่าตอนนั้นก็ยังลังเล และไม่แน่ใจว่าจะรับดีมั้ย ?
แต่ด้วยความที่ฉันเป็นลูกพ่อ และพ่อเป็นตัวอย่างในการทำความดี การปฏิบัตธรรม หรือแนวในการใช้ชีวิต จึงเลือกที่จะเชื่อพ่อ และอีกเหตุผลหนึ่งคืออยากทำให้พ่อสบายใจ ตอนที่รับอุปการะแรก ๆ ก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษ ก็ให้หักบัตรเครดิตเดือนละ 500 ด้วยภาวะงานที่ยุ่งก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก หลังจากนั้นเริ่มมีจดหมายจากเด็กมาขอบคุณ ส.ค.ส. ช่วงปีใหม่ และความคืบหน้าในการดำเนินโครงการสำหรับการรับอุปการะเด็กจากมูลนิธิสงเคราะหเด็กยากจน ซี.ซี.เอฟ. (CCF) ทำให้เราเริ่มรู้สึกว่าที่เราให้เขาแบบไม่ได้ตั้งใจ แต่สำหรับเขามันมีความหมายมาก
ของขวัญปีใหม่ และวันเด็ก
สามปีต่อมาเมื่อถึงเทศกาลปีใหม่จึงซื้อขนม เสื้อผ้า เป็นของขวัญไปให้เขาในช่วงเทศกาลปีใหม่ และวันเด็กที่อยู่ใกล้ ๆ กัน มีปีหนึ่งที่ประทับใจมาก ได้ส่งกระเป๋าเป้ใส่หนังสือ และเสื้อกันหนาว และตุ๊กตาอีก 1 ตัว เพราะเห็นว่าปีนั้นอากาศหนาว และภาคอีสานอากาศหนาวน่าจะช่วยเขาได้มากทีเดียว หลังจากนั้นได้มีจดหมายตอบกลับมาพร้อมกับรูปที่เด็กสะพายเป้ ใส่เสื้อและกอดตุ๊กตาด้วยรอยหน้าเปื้อนยิ้ม เราเห็นแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ เพราะช่วงเทศกาล สำหรับพวกเราก็ช็อปกระจายใช้เงินไม่ได้คุ้มค่าในบางโอกาส เพื่อประชดความเหนื่อยในช่วงที่ต้องทำงานหนัก เห็นรูปเด็กคนนี้แล้ว ทำให้เรามีสติในการใช้เงินมากขึ้น และทำให้อดนึกถึงตอนเป็นเด็กที่ชอบรอเวลาที่น้า ๆ จะแจกเงินในช่วงปีใหม่หรือสงกรานต์ รับอุปการะเด็กจากมูลนิธิสงเคราะหเด็กยากจน ซี.ซี.เอฟ. (CCF) อาจจะดูเหมือนเรื่องยากหรือเป็นภาระในสายตาสำหรับใครหลายคน แต่ที่จริงแล้วไม่ขนาดนั้น เหมือนเราผ่อนบ้าน ผ่อนรถ นั่นแหละค่ะ มันก็ผ่านไปได้เรื่อย ๆ ดีเสียอีก บางวันเหนื่อย ๆ ก็มานั่งอ่านจดหมายเด็ก ๆ เหล่านี้ แล้วรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาเยอะ เพราะเรารู้ว่าเขารอความเมตตาจากเราอยู่ ถึงแม้สิ่งที่เราหยิบยื่นให้น้อยนิด แต่สำหรับเขามันคือการให้ชีวิต และเปลี่ยนชีวิตเพียงเพราะมีการศึกษาที่ดีขึ้น แล้วสามารถช่วยเหลือครอบครัวได้ ที่จริงยังมีหลายมูลนิธินะคะ ไม่จำเป็นต้อง รับอุปการะเด็กจากมูลนิธิสงเคราะหเด็กยากจน ซี.ซี.เอฟ. (CCF) เท่านั้นค่ะ เพราะทำความดี ทำที่ไหน เมื่อไหร่ และไม่จำเป็นต้องจำกัดกับใคร หากคุณเริ่มต้นจิตด้วยความคิดดี อย่างแรกก็สบายใจแล้วค่ะ แต่ประการสำคัญต้องไม่เบียดเบียนตนเองจนเกินไป
อ่านถึงตรงนี้แล้ว อย่าลืมเลื่อน mouse กลับไปมองแววตาของเด็กที่อยู่ในรูปด้านบนนะคะ
ลองอ่านใจเธอซิว่า เธออยากบอกอะไร?
ให้แล้วใจเป็นสุข
ให้แล้วใจเป็นสุข