เทคนิคการลดต้นทุนด้วยการทำ localization
Localization เพื่อนๆ คงเริ่มคุ้นเคยกับการทำ กันไปแล้วนะคะ ทีนี้มาดูวิธีการลงมือทำให้เห็นผลการลดต้นทุนกันบ้างค่ะ ว่าของจริงทำกันอย่างไรกัน
สมมติว่า บริษัท A นำเข้าเคมีชนิดหนึ่งจากต่างประเทศ และบริษัทดังกล่าวก็มีสาขาอยู่ในประเทศไทย และมีความพร้อมที่จะพัฒนาการผลิตสินค้าตัวดังกล่าวด้วยเช่นกัน แต่อาจจะยังไม่เคยผลิต เนื่องจากเป็นชนิดที่บริษัทแม่ขายตรงให้กับบริษัท A กรณีแบบนี้มีเกิดขึ้นบ่อย และ Project แบบนี้จะสำเร็จได้จัดซื้อต้องเข้มแข็ง และผู้บริหารต้องสนับสนุนในการต่อรองกับ supplier ดังกล่าว เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้ามีทางเลือกที่จะทำ Localize ได้ โดยไม่เปิดกั้นจนเกินไป
อย่างไรก็ตาม การทำ project ลักษณะนี้ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก เพราะหากเป็นวัตถุดิบสำคัญ เช่น เคมี น้ำมัน หรือแม้จะเป็นวัตถุดิบอื่นที่มีสาระสำคัญของการผลิต ควรจะต้องมีขั้นตอนดังนี้
- กำหนดทีมงานรับผิดชอบทั้งฝ่ายผู้ซื้อและตัวแทนผลิตในประเทศ
- Trial plan หรือแผนการทดลอง มีจำนวน Lot และระยะเวลาที่เหมาะสมหรือตามมาตรฐานที่บริษัทหรือลูกค้ากำหนดไว้ เพื่อสร้างความมั่นใจในช่วงเปลี่ยนผ่านจะไม่มีปัญหา
- Validate scope หรือหัวข้อที่ใช้ในการพิจารณาอนุมัติผลการผลิตของแหล่งทดแทนต้องมีกฎเกณฑ์ชัดเจน พูดง่าย ๆ ว่า ต้องเปรียบเทียบ specification แบบรายการต่อรายการ ห้ามพลาดกันเลยค่ะ ข้อนี้สำคัญมาก ถ้าพลาดอาชีพจัดซื้อคุณจบเลยนะ ตกม้าตายเลยทีเดียวล่ะค่ะ project แบบนี้ท้าท้ายค่ะ แต่ต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง
- ต้องมีแผนสำรอง สต็อกเดิมยังต้องมีอยู่บ้าง เผื่อแผนฉุกเฉิน จนกว่าจะมั่นใจ หรืออาจจะปรับทีละ Line การผลิต โดยแยก Lot ให้ขัดเจน
- ผลการ Trail ควรเทียบเคียงด้วย Lab หรือผลที่อ้างอิงได้ขัดเจน เช่น graph ที่แสดงผลของแต่ละผลิตภัณฑ์ที่สามารถสร้างความมั่นใจกับทีมงานและลูกค้าได้
- และข้อที่ลืมไม่ได้กันเลยทีเดียวคือ ควรจะต้องแจ้งให้ลูกค้าทราบ หากวัตถุดิบดังกล่าวมีข้อตกลงกับลูกค้าที่จะต้องแจ้งการเปลี่ยนแปลง หรือเคมีดังกล่าวกระทบกับ product ลูกค้าในภายหลัง
- ท้ายสุดหากทุกอย่างเป็นไปตามแผน อย่าลืมคำนวณ saving ที่เกิดขึ้นจริง ได้ผลเหมือนกับที่เราทำงบประมาณไว้หรือไม่ เพื่อจะได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ไว้ทำ localize วัตถุดิบชนิดอื่นต่อไปค่ะ